รับวางระบบสระว่ายน้ำ

การติดตั้งงานระบบเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการสร้างสระว่ายน้ำ โดยอุปกรณ์ และการวางระบบทุกอย่างต้องผ่านการออกแบบ และคำนวนโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของหมีพูล เน้นคุณภาพของงานและสินค้าเป็นหลัก ตรวจสอบคุณภาพงาน วางระบบสระว่ายน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนส่งมอบ พร้อมบริการหลังการขายที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของหมีพูล

 

ระบบของสระว่ายน้ำ
ระบบ Overflow คือ น้ำจะไหลจากสระว่ายน้ำมาลงที่รางน้ำขอบสระ จากนั้นไหลลงสู่ (Surge Tank) เข้ามาผ่านถังกรอง แล้วจึงไหลกลับเข้าไปในสระว่ายน้ำตามเดิม

สระระบบ overflow (ระบบน้ำล้น) ต้องใช้สระแบบคอนกรีตเท่านั้น เพราะต้องออกแบบวางแนวรางน้ำ ตั้งแต่ขั้นตอนการเทคอนกรีต สระน้ำในระบบนี้จะแลดูสวยงามกว่าระบบ Skimmer (สกิมเมอร์) เพราะเมื่อฝุ่นละอองสัมผัสผิวน้ำแล้ว ก็จะล้นออกไป น้ำจะไหลลงรางระบายน้ำรอบสระ ไปสู่บ่อพักน้ำ ปั๊มจะทำหน้าที่สูบน้ำ สู่เครื่องกรอง เพื่อขจัดความสกปรกหมุนเวียนกันไป ซึ่งจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อให้น้ำผ่านการหมุนเวียน และมีการกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้น้ำในระบบใสสะอาด อยู่เสมอ และต้องใช้เคมี สำหรับการดูแล เพื่อมิให้เกิดตะไคร่น้ำ และ มีตะกอน จึงจำเป็นจะต้องมีผู้รู้ หรือศึกษาคู่มือในการบำรุงรักษาน้ำ ให้ใสสะอาดอยู่เสมอ

1. มีรางน้ำ (Grating) อยู่รอบขอบสระว่ายน้ำ หรือกำหนดให้น้ำล้นออกฝั่งไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับการออกแบบของวิศวะกร
2. ระดับน้ำจะอยู่ปริ่มขอบสระว่ายน้ำพอดี ทำให้ผิวน้ำแลดูตึงสวยสะอาดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็จะสามารถมองเห็นรางน้ำล้นที่ดูคล้ายกับท่อระบายน้ำรอบสระด้วย
3. มีบ่อพักน้ำ (Surge Tank) ซึ่งต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 20% ของสระว่ายน้ำ
4. รูปแบบสระดูสวยงามกว่าสระระบบ Skimmer

ระบบ Skimmer คือ น้ำไหลจากสระผ่านช่องสี่เหลี่ยมตรงผนังสระ (Skimmer) เข้ามาผ่านถังกรองแล้วจึงกลับเข้าสระเหมือนเดิม

สระระบบ Skimmer (สกิมเมอร์) เป็นสระว่ายน้ำที่เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำขนาดเล็ก เพราะเป็นการดูดน้ำบริเวณผิวน้ำ เข้าไปผ่านระบบกรอง เพื่อกำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากนั้นจึงส่งกลับไปยังสระว่ายน้ำ โดยจะต้องติดตั้งท่อที่จะจ่ายน้ำและดูดน้ำให้อยู่ตรงข้ามกัน เพื่อให้หมุนเวียนได้อย่างเป็นระบบ เนื่องจากเป็นการดูดน้ำบริเวณผิวน้ำ

1. ระดับน้ำในสระจะไม่ถึงขอบสระ ระดับน้ำจะอยู่ต่ำกว่าขอบสระ 10-20 ซม.เพื่อให้มีน้ำสำรอง
2. ราคาจะไม่สูงเท่าระบบ Overflow ติดตั้งง่าย ประหยัดพื้นที่ เพราะใช้อุปกรณ์น้อยกว่าระบบ Overflow
3. อาจมีสิ่งสกปรกหรือเศษใบไม้ลอยอยู่บนผิวน้ำ เพราะน้ำไม่ได้หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา

 

ระบบฆ่าเชื้อโรค/บำบัดน้ำในสระ
ระบบคลอรีน คือ การนำคลอรีนในรูปแบบของเหลว,ผง,เกล็ด,หรือแบบก้อน 90กรัม, 15กรัม โดยคลอรีนจะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรค มีคุณสมบัติกัดกร่อน ซึ่งช่วยกำจัดตะไคร่น้ำ ฆ่าแบคทีเรีย และเชื้อโรคอื่น ๆ ที่อยู่ในน้ำ ทำให้น้ำใสสะอาด น้ำในสระว่ายน้ำควรมีค่า PH (ค่าความเป็นกรด-ด่าง) ระหว่าง 7.2-7.8 เพื่อจะทำให้การฆ่าเชื้อโรคมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ก็ยังต้องเติมคลอรีนตามเวลาที่กำหนด เพราะคลอรีนสามารถระเหยไปในอากาศได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณกลางแจ้งที่มีอากาศร้อน

ระบบเกลือ คือ ระบบที่ใช้เกลือธรรมชาติ (NaCL) มาผ่านกระบวนการ Electrotytic Process โดยเครื่องซอลท์เจนเนอเรเตอร์ (Salt Generator) ทำให้กลายเป็นคลอรีนเหลว หรือโซเดียมไฮโปคอลไรด์ และไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อโรค ทำให้ได้น้ำที่ใสสะอาดโดยพึ่งสารเคมีน้อยกว่า และน้ำในสระจะไม่มีคลอรีน ทำให้ไม่แสบจมูก แสบตา หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง แถมยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนังด้วย
แต่มีจุดอ่อนที่ระบบสระว่ายน้ำแบบน้ำเกลือมักเกิดตะไคร่น้ำตามพื้นและผนังได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัดหรือมีฝนตก ซึ่งเป็นช่วงที่ตะไคร่น้ำเติบโตได้ดี

ระบบน้ำแร่ 

***แบบ 1 คือ กรรมวิธีการคายประจุไฟฟ้า โดยจะเกิดอิเล็กตรอน ซึ่งตัวอิเล็กตรอนนี้จะกระทำปฏิกิริยากับอณูของออกซิเจน ทำให้เกิดโอโซน และระบบนี้ต้องใช้ควบคู่กับระบบคลอรีน หรือระบบเกลือ เพื่อให้ได้ค่าน้ำที่เป็นมาตรฐานกำหนด

***แบบ 2 เป็นระบบการบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำที่มีราคาสูงที่สุด เพราะจะต้องติดตั้งเครื่องสร้างอิออน ที่มีการกรองน้ำและใช้ระบบโอโซนในการฆ่าเชื้อโรค รวมจนถึงกำจัดตะไคร่น้ำ ซึ่งทำให้ได้น้ำที่ใสสะอาด ปลอดภัยต่อร่างกายผู้ใช้งาน เพราะไม่ต้องใช้สารเคมีในการบำบัดน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นการลงทุนติดตั้งครั้งเดียวจบ เพราะไม่จำเป็นต้องตรวจวัดสารเคมี เพียงทำความสะอาดทั่วไปเป็นประจำก็เพียงพอแล้ว

 

TIPS : โดยเฉลี่ยแล้วราคาค่าก่อสร้างสระว่ายน้ำสําเร็จรูปจะมีราคาถูกกว่าสระว่ายน้ำคอนกรีตประมาณ 10-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพหน้างาน และความยากง่ายในการเข้าถึงพื้นที่ก่อสร้างสระว่ายน้ำด้วย สําหรับสระว่ายน้ำคอนกรีตที่มีความลึกประมาณ 1.2 เมตร ปูผิวกระเบื้องโมเสก ราคาค่าก่อสร้างจะประมาณ 20,000 -25,000 บาทต่อตารางเมตร